ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า คนที่ใกล้ชิดพื้นที่และเข้าใจปัญหามากที่สุด คือ นายอำเภอ และส่วนราชการในพื้นที่ จึงถือเป็นด่านแรก ที่จะต้องเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วนทันที นอกจากนี้ได้วางแผนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมทุกอำเภอ ทั้ง 19 อำเภอ เพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนด้วยตนเอง และจะนำโมเดลจากการแก้ปัญหาพื้นที่ชายแดนใต้ ด้วยการสร้างความสามัคคี ร่วมแรง ร่วมใจ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่มาปรับใช้ และยังได้เตรียมขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสกายวอล์ค เขาท่าเพชร เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว สถานที่เช็คอินแห่งใหม่ของตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีความล่าช้าจากการแก้ไขแบบแปลนให้เหมาะสมกับลักษณะกายภาพของพื้นที่ ตลอดจน ขับเคลื่อนการเสนอแหล่งโบราณสถาน ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สู่มรดกโลก รวมไปถึงขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว โดยเน้นการสนับสนุนด้านอาหาร วัตถุดิบและสินค้าท้องถิ่นที่โดดเด่นของพื้นที่ เพื่อกระจายรายได้สู่ประชาชนอย่างทั่วถึง พร้อมกับเน้นย้ำให้ส่วนราชการ ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ทั้งนี้มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองผอ.รมน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฝ่ายทหาร) หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งในส่วนภูมิภาค และส่วนกลางในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอ ตลอดจน องค์กรอิสระของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง
ภาพ/ข่าว : วราภรณ์ จารุจารีต
//งานประชาสัมพันธ์