suratcity.go.th - O07-ข่าวประชาสัมพันธ์
18 มีนาคม 2567 “วันท้องถิ่นไทย”
คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันท้องถิ่นไทย" เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะ ตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พุทธศักราช 2448 ถือเป็น “ปฐมบทแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย” และเป็นรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น
18 มีนาคม ของทุกปี
”วันท้องถิ่นไทย”
“ปฐมบทการปกครองท้องถิ่นไทย”
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะ ตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พุทธศักราช 2448 ถือเป็น “ปฐมบทแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย” และเป็นรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น
วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ
พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
"องค์บิดาของทหารเรือไทย"
ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง พระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทยนั้น ปรากฏทั้งในด้านกิจการทหารเรือที่พระองค์ท่านทรงวางรากฐานไว้ และการแพทย์แผนโบราณ ซึ่งพระองค์ทรงพระกรุณาช่วยเหลือรักษาผู้ตกทุกข์ได้ยากไม่เลือกชั้นวรรณะ จนเป็นที่เลื่องลือนับถือกันโดยทั่วไปในพระนามว่า “หมอพร” หรือ ที่ทหารเรือเรียกท่านว่า “เสด็จเตี่ย”
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำทูตวัฒนธรรม เรือพนมพระทางบก วัดอุทยารามและนางรำนางลาก กว่า 100 ชีวิต ร่วมงานแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อเย็นวันที่ 1 ส.ค.66 บริเวณปะรำพิธีหน้าลานขวัญเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี นางสาวกานสินี โอภาสรังสรรค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินนำขบวน แสง
สี โดยมีเรือพนมพระทางบกจากวัดอุทยาราม (วัดโด) ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ ซึ่งเป็นประติมากรรมงานปั้นขึ้นรูปโดยใช้ขี้เลื่อย พร้อมด้วย การแสดงชุดนางรำ - นางลาก กว่า 100 ชีวิตเพื่อเป็นตัวแทนทูตวัฒนธรรมจากสุราษฎร์ธานี เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีสาน-ใต้ ในพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีภายใต้ชื่อ 122 ปี “ทวยราษฎร์ ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา”
และในเช้าวันที่ 2 ส.ค. 66 ได้ร่วมนำขบวนในพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานีเป็นวันรวมเทียน ซึ่งต้นเทียนพรรษาจากอำเภอ คุ้มวัดและชุมชน ได้มารวมกันที่บริเวณทุ่งศรีเมือง และถนนเลียบแม่น้ำมูลเพื่อให้นักท่องเที่ยว และประชาชนได้ชื่นชมความสวยงามยิ่งใหญ่ของต้นเทียนพรรษา ประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และประเภทเชนโบราณ จำนวนทั้งสิ้น 53 ต้น โดยฝีมือช่างเทียนพรรษาชั้นครู และช่างเทียนพรรษารุ่นใหม่ ใช้ระยะเวลากว่า 2-3 เดือนที่ทุ่มเท ตั้งใจรังสรรค์ผลงานออกมา ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีและอัตลักษณ์ของความเป็นอุบลราชธานีอีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ วิถีธรรม โดยใช้วัฒนธรรมประเพณีเป็นสื่อกลาง ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวระหว่าง 2 ธานี 2 ภูมิภาค ซึ่งเป็นความร่วมมือของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ อุบลราชธานี ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเชื่อมโยงภูมิภาค ภายใต้คำขวัญ "เข้าพรรษาเที่ยวงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ออกพรรษาเที่ยวงานชักพระทอดผ้าป่าสุราษฎร์ธานี" โดยในเทศกาลเข้าพรรษา ชาวสุราษฎร์ธานีจะนำขบวนรถพนมพระไปร่วมงานที่อุบลราชธานี และเทศกาลออกพรรษาชาวอุบลราชธานีจะนำรถต้นเทียนพรรษาไปร่วมงานที่สุราษฎร์ธานี ด้วย